Pages

Friday 10 February 2012

อานิสงค์แห่งทุกข์

อานิสงค์แห่งทุกข์
  1. คุณทราบหรือไม่ว่าธรรมะที่สำคัญระดับฉุกเฉินเร่งด่วน ขนาดว่าการดับไฟที่ใหม้หัวยังสำคัญน้อยกว่าเรียนธรรมะข้อนี้ ธรรมะข้อนี้ให้ความสำคัญกับการ "รู้" ทุกข์เป็นอันดับแรก เมื่อรู้อย่างนี้ก็ไม่ต้องวิ่งหนีทุกข์(ที่ใจ)กันแล้ว ขยันสอดส่องหาความทุกข์ไม่ว่ามันจะซ่อนหรือถูกซ่อนไปอย่างเนียนก็หามันให้เจอ เจอทุกข์แล้วให้ทัก ทักแล้วรีบลา ลาแล้ว(ยิ้ม)รอทุกข์รอบใหม่ ซ้อมกระบวนท่านี้เป็นประจำ วิกฤตแห่งทุกข์ของคุณก็จะเป็นโอกาสและความสุขได้ไม่ยาก
  2. คุณทราบหรือไม่ว่าเราเรียนรู้และเติบโตจากความสุขได้น้อยมากหรือไม่เลย แต่ตรงกันข้าม เราสามารถเรียนรู้และเติบโตจากความทุกข์อย่างมากมาย มุมมองนี้อาจจะฟังดูขัดๆแต่มันเป็นธรรมชาติเช่นนั้นครับ คุณลองดูของมีค่าตามธรรมชาติว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร เพชรมีสารตั้งต้นคือถ่านแต่ถูกกระทำด้วยความร้อนและความดันหลายพันปี ถ่านจึงถูกเปลี่ยนเป็นเพชร คนก็เช่นเดียวกัน ผู้ประสบความสำเร็จอย่างสูงต้องผ่านความล้มเหลงมาแล้วหลายครั้ง มีคนคนทำสถิติด้วยครับว่า เศรษฐีเจ้าของบริษัทที่ประสบความสำเร็จ จะต้องทำบริษัทแล้วเจ๊งโดยเฉลี่ย 7 ครั้ง



ขอยกกรณีตัวอย่างของการฝีกฝนผ่านความทุกข์ โดยใช้พลังแห่งความรักช่วยผลักดัน ผลที่ได้มิใช่เพียงความแข็งแกร่งของกายและใจ ผมว่าเขาได้รับรางวัลแห่งชีวิตหรือะไรที่ยิ่งกว่านั้นซะอีก เป็นกรณีของครอบครัว Hoyt ... คุณพ่อ Dick (Hoyt) คุณแม่ Judyมีลูกชายขื่อ Rick Rick ซึ่งขาดอ็อกซิเจนตอนเกิดจนพิการทางสมอง Rick พูดไม่ได้เดินไม่ได้ ไม่มีทางมีชีวิตปกติ ผมคิดไม่ออกว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่จะทุกข์ซักขนาดไหนที่มีลูกพิการ Dick และ Judy ทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกได้มีโอกาสเหมือนคนปกติ จนได้เข้าโรงเรียน อายุ 15 Rick อยากวิ่งการกุศลหาทุนช่วยเพื่อนที่เป็นอัมพาต Dick จึงตกลงแข่งร่วมกับลูกชายที่นั่งในรถเข็น เมื่อเขาวิ่งพร้อมรถเข็นเข้าเส้นชัย Rick ก็พูดกับพ่อว่า "พ่อครับ...ตอนผมลงแข่ง ผมไม่รู้สึกว่าผมเป็นคนพิการเลย"
ด้วยจุดเริ่มต้นตรงนั้น.. Dick และ Rick ก็ลงแข่งวิ่งมาราทอน อีกหลายสนาม รวมทั้งแข่งไตรกรีฑา "คนเหล็ก" ที่แม้แต่คนธรรมดายังเอาตัวไม่รอด รางวัลให้ชีวิตที่ Dick ได้รับ ไม่ใช่เพียงแค่ความสุขที่สามารถทำให้ Rick ไม่รู้สึกถึงความพิการของเขา แต่ยังมีอีกอย่างคือ ... หมอตรวจพบความผิดปกติทางหัวใจ หมอบอกว่า ถ้าเขาไม่วิ่งเพื่อลูก จนร่างกายแข็งแรงขนาดนี้ เขาอาจจะเสียชีวิตไปแล้ว
จนถึงวันนี้ ครอบครัว Hoyt ก็ยังลงแข่งไตรกรีฑาอยู่ ทั้งคู่ยังไม่คิดจะเลิก
  1. ทุกข์คือตัวสร้างและคัดกรองเพื่อนแท้ คงไม่มีใครปฏิเสธว่าเพื่อนกินเที่ยวหาง่าย เพื่อนตายหายาก แม้ว่าคุณจะมีเพื่อนมากมายแวดล้อมตัวคุณในวาระแห่งความสุขต่างๆ แต่จะมีสักกี่คนในกลุ่มนี้อยู่กับคุณในยามที่คุณไม่มีอะไรเหลือมอบให้พวกเค้าได้ และจำนวนมันจะน้อยลงไปอีกที่จะยังอยู่กับคุณในยามลำบากหรือมีความทุกข์ต้องการความช่วยเหลือจากเขา และจะน้อยลงที่สุดถ้าเขาต้องเสียสละเพื่อคุณ ดังนั้นในยามที่มีความทุกข์ ที่คุณอาจเหลือเพื่อนเพียงไม่กี่คนอยู่ข้างกาย อย่าเสียใจ เพราะเวลานี้เป็นเวลาที่คุณได้อยู่กับคนที่ควรค่าแก่การเฉลิมฉลองที่สุดแล้ว ที่จริงคุณอาจจะแปลกใจที่เพื่อนที่ไม่เคยอยากร่วมสุข กลับเป็นคนที่พร้อมจะร่วมทุกข์กับคุณมากที่สุด .. บางที่ชีวิตก็สวยงามเบ่งบานในเวลาที่เราไม่คาดฝัน
  1. ซักวันคุณอาจจะได้เป็น Hero ...คุณทราบมั้บว่า Hero ของผมหลายคนเป็นคนพิการ


อาจารย์กำพล ทองบุญนุ่ม ตอนอายุ 24 เขาประสบอุบัติเหตุศีรษะกระแทกพื้นที่ก้นสระว่ายน้ำ ชาไปทั้งตัวเป็นอัมพาต คงไม่ต้องอธิบายว่าความทุกข์บีบคั้นทั้งกายทั้งใจขนาดไหน ปัจจุบัน "จิต" ลาออกจากความพิการและความทุกข์แล้ว และเป็นนักพูด ผู้บรรยายธรรมที่มีชื่อเสียง



Nick Vujicic เกิดมาพร้อมความพิการไม่มีแขนขา ปัจจุบันเขาเป็นนักพูดสร้างกำลังใจ บรรยายให้ผุ็ฟังกว่า 3 ล้านคนใน 24 ประเทศ 5 ทวีป


Hero ของผมทั้งสองท่านก็ฝ่าผ่านความทุกข์มากได้อย่างสง่างามและสุดภาคภูมิ ผมไม่ได้ขอหรืออยากให้คุณเป็นคนพิการ แต่คุญควรภูมิใจว่า เมื่อคุณผ่านด่านทุกข์สำเร็จไปได้ คุณก็พร้อมจะเป็นวีระบุรษของใครซักคนแล้วครับ
  1. สุดท้าย ทุกข์ซ้ำๆ คือโอกาสของการฝึกฝน ถ้าคุณเป็นเด็กขี้เกียจ การฝึกจะเป็นกิจกรรมที่น่าเบื่อมาก แต่กับมืออาชีพ โอกาสได้ฝึกฝนก่อนลงแข่งจริง เป็นสุดยอดปรารถณาเลย เพราะคุณรู้ว่าเมื่อการแข่งครั้งสุดท้ายมาถึง คุณจะลงแข่งด้วยความพร้อม และจะได้รับชัยชนะทีงดงามที่สุด ..... คุณต้องเลือกหละว่าจะเป็นคนขี้เกียจ หรือเป็นมืออาชีพ

มาถึงตรงนี้...คุณรู้สึกดีกับความทุกข์ขึ้นมาบ้างหรือยัง อยากออกไปลุยกับความทุกข์แบบมืออาชีพ เพาะบ่มเพชรในตัวคุณแล้วหรือยังครับ
ก่อนผมจะจบบทความนี้ ผมขออนุญาติแอบบอกความลับของจักรวาลให้คุณรู้อีกหน่อย.. คุณทราบมั้ยว่าทุกคนเกิดไม่ได้มาคนเดียว พระเจ้ามอบคนนำทางมาให้พร้อมเพื่อนร่วมทางมาด้วยเสมอ..แต่มนุษย์กลับเลือกที่จะเดินเหงาๆคนเดียว ....น่าขำปนน่าสงสารมั้ยครับ ขอเถอะ อย่าอยู่คนเดียวเลย มองรอบๆตัว เปิดตาเปิดใจให้เพื่อนได้้มีโอกาสเขาได้ทำหน้าที่ ตัวคุณเองก็เกิดมาเป็นเพื่อนร่วมทางของใครซักคนเช่นกันดังนั้นถือโอกาสทำหน้าที่นั้นเองด้วย ขอให้มีความสุขอยู่กับการรู้ทันทุกข์มากๆนะครับ

No comments:

Post a Comment